พวงทอง ภวัครพันธุ์
หมวดหมู่ : Book ,  หนังสือการเมืองและสังคม , 
Share
จุดเริ่มต้นที่ทำให้ผู้เขียนเกิดความสงสัยเกี่ยวกับกิจการความมั่นคงภายในของกองทัพเกิดขึ้นไม่นานหลังการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แต่กว่าจะเริ่มต่อจิ๊กซอว์ของเหตุการณ์ต่างๆ ได้และตัดสินใจทำวิจัยเรื่องนี้ก็เข้าสู่ปี 2560 ผู้เขียนเริ่มเสนอข้อค้นพบบางส่วนต่อสาธารณะผ่านเวทีวิชาการ บทความ และให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลายครั้งตั้งแต่ปลายปี 2560 เพื่อกระตุ้นเตือนสังคมให้เห็นถึงความพยายามขยายอำนาจของกองทัพเพื่อแทรกซึมและควบคุมสังคมด้วยกลวิธีต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ผู้เขียนอยากจะกล่าวอ้างว่าผู้เขียนมีส่วนทำให้ชื่อ กอ.รมน. กลับมาถูกกล่าวถึงในสังคมอย่างกว้างขวางอีกครั้งหนึ่ง
...
การสังเกตเห็นความผิดปกติต่างๆ ได้นำไปสู่คำถามมากมายว่ามันเกิดขึ้นอย่างไรและเพื่ออะไร และคำตอบนั้นได้ปรากฏตัวครั้งแรกในรูปของหนังสือภาษาอังกฤษของผู้เขียนเรื่อง Infiltrating Society: The Thai Military’s Internal Security Affairs (Singapore: Yusof Ishak ISEAS, 2021) โดยในการตีพิมพ์เป็นหนังสือภาษาไทยที่ท่านถืออยู่นี้ ผู้เขียนได้ปรับปรุงและแก้ไขเนื้อหาหลายจุดด้วยกัน โดยได้ปรึกษาหารือกับสถาบัน Yusof Ishak ISEAS และได้รับอนุญาตให้ใช้เนื้อหาหลักได้โดยไม่ถือเป็นการแปล นอกจากนี้ ผู้เขียนได้รับทุนอุดหนุนการศึกษา/วิจัยเพื่อเขียนหนังสือ/ตำราจากงบประมาณรายได้ของคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อพัฒนางานวิจัยชิ้นนี้ให้เป็นหนังสือภาษาไทย เพื่อให้นิสิตนักศึกษาและประชาชนสามารถเข้าถึงความรู้ได้สะดวกยิ่งขึ้น
...
งานวิจัยชิ้นนี้เป็นงานที่ผู้เขียนทุ่มเทกำลังกายกำลังใจให้มากที่สุดก็ว่าได้ แต่ก็เป็นช่วงเวลาการทำงานวิชาการที่ดีที่สุดช่วงหนึ่งด้วย การหมกมุ่นกับการคิดการเขียนงานวิชาการเป็นทั้งความเครียดและความสุขไปพร้อมๆ กัน … ผลของการหมกมุ่นทำให้หนังสือ Infiltrating Society ได้รับคำวิจารณ์เชิงบวกจากนักวิชาการต่างชาติหลายท่าน และยังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในหนังสือที่ดีที่สุดของปี 2022 ของวารสาร Foreign Affairs สำหรับคนที่มีอาชีพนักวิชาการเช่นผู้เขียน การได้มีหนังสือดีๆ ออกมาสักเล่มหนึ่งเป็นความฝันที่มีมาตั้งแต่เริ่มอาชีพวิชาการ เป็นความฝันที่ไม่เคยมั่นใจว่าตัวเองจะทำได้ และผู้เขียนพบว่างานชิ้นนี้ให้ความสุขแก่ผู้เขียนมากกว่าการได้ยศถาบรรดาศักดิ์ทางวิชาการใดๆ แน่นอนว่าผู้เขียนยังใฝ่ฝันต่อว่าหนังสือเล่มนี้จะมีประโยชน์ต่อการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและความยุติธรรมให้กับผู้คนในสังคมไทย รวมทั้งช่วยขยายฐานทางปัญญาของสังคมไทยให้เติบโตต่อไปได้ด้วย